จะขอแบ่งปัญหาออกเป็นกลุ่มๆ หลากหลายระดับนะครับ เพราะ
ปัญหาใต้ตานั้นมีหลากหลาย ตาลึก ตาคล้ำ ถุงใต้ตา ร่องน้ำตาลึก รอยย่นพับใต้ตา
บางคนมี1 ปัญหา บางคน 2-3 บางคน มีแทบทุกชนิดที่กล่าวมา
ในแต่ละกลุ่มปัญหานั้น มีสาเหตุเกิดได้จากหลายปัจจัย ตั้งแต่โครงสร้างตื้นที่ผิวชั้นบน จนถึงโครงสร้างลึกที่ชั้นกระดูกเลยก็ว่าได้
การแก้ปัญหาในแต่ละคนจึงแตกต่างกันออกไป ยากง่ายต่างกันในแต่ละเคส
ปัญหาริ้วรอยใต้ตา ตาลึก ตาโหล ขอบตาดำ ถุงใต้ตา เป็นจุดที่สังเกตได้ง่ายมากบนใบหน้า ทำให้หน้าดูมีอายุ โทรมและไม่สดใส
หมอแนะนำการแก้ปัญหาเหล่านี้ด้วย ฟิลเลอร์ใต้ตา ครับ สำหรับใครที่ไม่เคย ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มาก่อน ห้ามพลาดบทความนี้ครับ
ฟิลเลอร์ใต้ตา คืออะไร?
ปัญหาใต้ตา เกิดจากสาเหตุใด?
วิธีแก้ไขปัญหาใต้ตาคล้ำ ถุงใต้ตา ริ้วรอย
ฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?
ถุงใต้ตาแบบไหนไม่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา?
เรื่องที่ควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อันตรายไหม?’ เลือกยี่ห้ออย่างไร?
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อันตรายไหม?
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา VS ฉีดไขมันใต้ตา
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับใคร
ฟิลเลอร์ใต้ตา ใช้กี่ cc ถึงเห็นผล?
ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี?
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี?
ข้อสงสัยหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา กี่วันเห็นผล บวม เป็นก้อนเกิดจากอะไร?
ฟิลเลอร์ใต้ตา กี่วันเห็นผล?
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา บวมกี่วัน?
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานแค่ไหน
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ทำให้ตาบอดจริงหรือ?
ฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นก้อนเกิดจากอะไร? แก้ไขได้’ไหม?
การปฏิบัติตัวก่อนและหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ข้อห้าม หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ควรรู้
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคา
รีวิว ฟิลเลอร์ใต้ตา
ข้อดีฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ข้อเสียฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือ การเติมสารไฮยาลูรอนิค แอซิด เข้าไปในบริเวณใต้ตาที่มีปัญหาริ้วรอย เมื่อคนเราอายุมากขึ้นกระดูกจะยุบตัวลง เนื้อน้อยลง ทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อย หน้าดูโทรม อ่อนล้า เกิดเป็นร่องรอยใต้ตา
การ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเพื่อลดริ้วรอย แก้ปัญหา ใต้ตาดำคล้ำ ถุงใต้ตา ฉีดเติมเต็มร่องลึกใต้ตา ฉีดใต้ตาคล้ำ จะช่วยให้ใบหน้ากลับมาสดใส อ่อนเยาว์อีกครั้งครับ
อย่างประมาณ 5 ปีก่อน จะฮิตการเติมร่องแก้มเพราะคนกังวลว่าร่องแก้มทำให้ดูมีอายุ แต่การเติมร่องแก้มอย่างเดียวโดยที่ไม่ได้เติมใต้ตาด้วยทำให้หน้าดูแข็ง ไม่ละมุน ขาดความฮาโมนี่ของหน้า ร่องแก้มเต็มแต่ใต้ตาลึกจะดูหน้าอูมๆ ไม่มีความเป็นธรรมชาติ
การ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จึงเป็นตำแหน่งแรกที่เติมแล้วได้ฮาโมนี่ คือเด็กลงอย่างเป็นธรรมชาติ เพราะว่าใต้ตาจะเป็นจุดที่ยุบลงตำแหน่งแรกและเป็นจุดที่ควรจะเติมเป็นตำแหน่งแรกครับ
ปัญหาร่องใต้ตา สาเหตุเกิดจากส่วน Tear through ที่อยู่ใกล้ร่องน้ำตา กับ Hollow Under Eye ตรงเบ้าตา เกิดการยุบตัวลงเมื่ออายุมากขึ้น อาจจะเป็นส่วนเดียวหรือทั้งสองส่วนก็ได้ หากจะฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา หมอจะต้องประเมินปัญหาให้ชัดเจน เพื่อแก้ไขอย่างตรงจุดครับ
นอกจากปัญหาเรื่องอายุที่มากขึ้น คนที่อายุน้อยๆ ก็มีปัญหาใต้ตาได้เช่นกัน เนื่องมาจากพันธุกรรม ภูมิแพ้ หรือการเจริญเติบโตของกระดูกช่วงเบ้าตาและใต้ตาไม่ดี ทำให้เกิดถุงใต้ตา ร่องใต้ตา และยังมีปัญหาจาการใช้สายตาที่ไม่ถูกต้อง ทำให้กล้ามเนื้อรอบดวงตาหย่อนยานและมีริ้วรอยก่อนวัย
การทำดอลลี่อาย (Dolly eyes) เป็นการทำให้ขอบตาล่างดูหนาขึ้น ดวงตาจะกลมโต ดูหน้าเด็ก ซึ่งเป็นเทรนด์ที่นิยมอยู่ช่วงหนึ่งครับ สามารถใช้การเติมไขมันและการฉีดฟิลเลอร์ เพื่อทำดอลลี่อายได้
รีวิวฉีด ฟิลเลอร์ใต้ตา แก้ปัญหาขอบตาดำ
เมื่ออายุ 25 ปีขึ้นไป ใต้ตาทุกคนจะเริ่มยุบลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ใต้ตาจึงเป็นจุดแรกที่หมอแนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์ (filler) เติมเต็ม
ในผู้ชายส่วนมากการที่กระดูกใต้ตายุบตัวลงจะทำให้ดูเหมือนผอมลง ดูโทรม แต่บางคนจะดูหล่อขึ้น ส่วนในผู้หญิง จะทำให้หน้าโทรม ดูมีอายุขึ้น ปัญหาใต้ตาที่สามารถแก้ด้วย ฟิลเลอร์ใต้ตา ได้แก่
ฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยแก้ปัญหา ริ้วรอยใต้ตา รอยตีนกา มีลักษณะเป็นรอยเหี่ยวย่นใต้ตา และรอบๆ ดวงตา ทำให้หน้าดูมีอายุ
ขอบตาดำ ใต้ตาคล้ำ เป็นวงคล้ำรอบดวงตาและจะเห็นชัดบริเวณใต้ตา ทำให้หน้าดูอ่อนล้า
ถุงใต้ตา ใต้ตาหย่อนคล้อย การมีถุงใต้ตาจะทำให้ปัญหาริ้วรอยและร่องใต้ตาเห็นชัดขึ้น
เบ้าตาลึก ตาโหล เกิดจากการยุบตัวของกระดูกใต้ตา และการสลายตัวของเนื้อเยื่อ
โหงวเฮ้งดวงตา ร่องใต้ตา (หน่ำหนึงเก็ง)
นอกจาก ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อความสวยงามแล้ว เรื่องโหงวเฮ้งตา ก็เป็นอีกปัจจัยที่หลายคนสนใจครับ โดยตามตำรา โหงวเฮ้งตา คือตำแหน่งอยู่ที่ใต้กระบอกตาซ้ายและขวา หมายถึง โชคลาภ ความสบาย
ลักษณะเด่น
โหงวเฮ้งดวงตาที่ดี คือเต็มอิ่ม สีสดใส ไม่ดำคล้ำ เรียบ เปล่งปลั่ง ไม่ว่าชายหรือหญิงจะมียศศักดิ์ และร่ำรวยศรีสุขไปตลอดชีวิต ลูกหลานเจริญรุ่งเรือง
ลักษณะด้อย
ตาที่มีลักษณะเป็นแอ่งโบ๋ ร่องลึก มีถุงใต้ตาเยอะเกินไป ไม่ว่าชายหรือหญิง ก็จะอาภัพโชค หาคู่ครองยาก หรือลูกหลานดื้อ เลี้ยงยาก หากใต้ตาสีดำคล้ำ ก็จะพบปัญหาคู่ครองและบุตร อาภัพลูก
ถุงใต้ตาแบบไหนไม่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา?
ปัญหาถุงใต้ตาเทียม เกิดจากพฤติกรรมที่ทำให้ถุงใต้ตาบวมขึ้น เช่น การขยี้ตา การร้องไห้ ใช้สายตามากเกินไป หรือมีความเครียดสูง
ปัญหาถุงใต้ตาแท้ เกิดจากผนังกั้นเปลือกตาล่างอ่อนแอลง ทำให้ไขมันใต้ตาหย่อนเป็นถุงใต้ตา และการเสื่อมสภาพของผิว เมื่ออายุมากขึ้น กระดูกใต้ตายุบตัว เนื้อเยื่อใต้ผิวหนังใต้ตายืดออกมาก ทำให้เป็นลักษณะของถุงใต้ตาที่เป็นผิวหย่อนคล้อย
ฟิลเลอร์ใต้ตา เหมาะกับปัญหาถุงใต้ตาแท้ ที่มีการยุบตัวของกระดูก เนื้อเยื่อใต้ผิวหนังใต้ตายืดออกมาก ฟิลเลอร์จะช่วยทดแทนกระดูกและเนื้อเยื่อที่ยุบตัว
ถือเป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุดที่สุดครับ ถ้าเป็นปัญหาถุงใต้ตาที่เกิดจากพฤติกรรม รักษาได้ด้วยหลีกเลี่ยงพฤติกรรมนั้นๆ ครับ
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อันตรายไหม?
บริเวณใต้ตาเป็นส่วนที่หลายคนกังวลเพราะเป็นอวัยวะที่สำคัญของร่างกายการ ฉีดfillerใต้ตา มีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก หากแพทย์มีประสบการณ์ ใช้เทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง ก็มีความปลอดภัยแน่นอนครับ
และที่สำคัญคือต้องใช้ฟิลเลอร์แท้เท่านั้น สามารถสลายได้หมด ไม่มีสารตกค้าง ไม่เป็นอันตรายครับ
ฟิลเลอร์แท้จะละลายออก 100% และจะเหลือเป็นคอลลาเจนอีลาสตินที่ร่างกายเราสร้างขึ้นมาซึ่งจะดีกว่าตอนก่อนฉีดครับ คือฟิลเลอร์ที่เราฉีดเข้าไปจะทำให้ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นบริเวณผิวที่เราฉีด เหมือนมีน้ำมาหล่อเลี้ยงและจะดูดน้ำจากผิวบริเวณรอบๆ มาอุ้มไว้แล้วก็คอยเลี้ยงผิวบริเวณนั้น
ต่อให้ฟิลเลอร์สลายหมดไป คอลลาเจนของร่างกายเราก็ยังเหลืออยู่ ซึ่งดีกว่าตอนที่ยังไม่ได้ทำอะไร เหมือนกับช่วยชะลอผิวเราไว้ด้วยครับในสมัยก่อนฟิลเลอร์ของแท้ราคาจะค่อนข้างสูง ราคาต้นทุนของซิลิโคนเหลวหนึ่งซีซีไม่ถึงร้อย ทำให้บางที่เลือกใช้ฟิลเลอร์ปลอม ซึ่งก็มีหลายรูปแบบ ทั้งแบบซิลิโคนเหลว แบบที่เป็นฟิลเลอร์แต่ว่าไม่บริสุทธิ์ และฟิลเลอร์ของปลอมละลายออกได้ไม่ 100% ครับ
ปัญหาริ้วรอยใต้ตา เกิดมาจากทั้งการยุบตัวของกระดูก และการยุบตัวของเนื้อบริเวณใต้ตา ซึ่งถ้าหากเป็นการยุบตัวจากกระดูก การฉีดไขมันใต้ตาไม่สามารถแก้ปัญหาได้ครับ
แต่ถ้าเป็นปัญหาที่เกิดจากเนื้อยุบตัวก็สามารถใช้ทั้งการ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา และการฉีดไขมันช่วยได้ ทั้งสองอย่างมีข้อแตกต่าง ดังนี้
ฟิลเลอร์ใต้ตา |
---|
1. ฟิลเลอร์ใต้ตา ฉีดโดยใช้สารเติมเต็มประเภท HA ที่ปลอดภัย |
2. ฟิลเลอร์ใต้ตา หลังทำเห็นผลลัพธ์ทันที |
3. ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาใช้เวลาทำไม่นาน เจ็บน้อย ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น |
4. อาจมีอาการบวมหลังฉีด แต่จะหายไปเองใน 2-3 วัน |
5. ยุบบวมและเห็นผลเต็มที่ใน 2 สัปดาห์ |
6. ฟิลเลอร์อยู่ไม่ได้ถาวร ระยะเวลาขึ้นกับยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ |
ฉีดไขมันใต้ตา |
---|
1. ใช้ไขมันของตัวเองโดยดูดจากบริเวณอื่นมาเติมใต้ตา |
2. ลดความเสี่ยงที่จะเกิดการแพ้ |
3. ต้องมีการตรวจเช็คไขมันที่จะนำมาใช้ มีกระบวนการดูดไขมัน และปั่นแยกเป็นของเหลว |
4. คนไข้จะมีแผลในตำแหน่งที่มีการดูดไขมันมาเพื่อฉีด |
5. ผลอยู่ได้นานแต่มักจะไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีในครั้งแรก ต้องทำซ้ำหลายครั้ง |
6. อาจเกิดปัญหาผิวไม่เรียบเสมอกัน |
ในการแก้ปัญหาริ้วรอยใต้ตา การ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ถือว่ามีความเสี่ยงน้อยกว่าการฉีดไขมันใต้ตาครับ
การฉีดไขมันใต้ตาต้องระวังในเรื่องการฉีดเข้าหลอดเลือดซึ่งมีเคสที่เนื้อตายและตาบอดจากการฉีดไขมันมากกว่าฟิลเลอร์ เนื่องจากสสารของไขมันมีขนาดใหญ่กว่า ต้องใช้เข็มใหญ่กว่า
(ตารางเปรียบเคสที่เกิดเนื้อตายและตาบอดจากการฉีดสารเติมเต็มชนิดต่างๆ)
และหากไขมันที่ดูดออกมาไม่มีคุณภาพ เซลล์เหล่านั้นก็มีโอกาสตายและลดจำนวนลง เปอร์เซ็นต์การอยู่รอดของไขมันในการฉีดแต่ละครั้งจึงไม่มาก ใน 100% อาจจะเหลือเพียง 20% เท่านั้นครับ
การ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่าถ้าคนไข้อยากเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนตั้งแต่ครั้งแรก
หมอจะเป็นคนประเมินว่าแต่ละเคสต้อง เติมฟิลเลอร์ใต้ตา กี่ CC ครับ ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละบุคคล ซึ่งใช้ปริมาณ CC ไม่เท่ากัน
ในคนที่มีปัญหากระดูกใต้ตามีการยุบตัวมากๆ ใต้ตาลึก เช่น คนไข้อายุเยอะมากๆ หมออาจพิจารณาใช้ฟิลเลอร์มากขึ้นโดยดูเป็นเคสๆ ไป แต่ส่วนใหญ่จะใช้ 1-2 CC ในการรักษาก็สามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจนแล้วครับ
การ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นบริเวณที่ต้องพิถีพิถันในการฉีด ผิวหนังใต้ตาค่อนข้างบางจึงควรเลือกใช้ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด ไม่ทำให้ผิวฟูมากจนเกินไปเพราะฉีดแล้วทำให้ตาดูบวม ไม่เป็นธรรมชาติครับ
แบรนด์ฟิลเลอร์ที่แนะนำสำหรับฉีดใต้ตา คือ Restylane และ Juvederm ฉีดแล้วคงรูปไม่ฟูเยอะ แต่ละรุ่นจะอยู่ได้นานแตกต่างกัน หากจะฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา หมอก็แนะนำ 2 รุ่นนี้ครับ
Juvederm ในเนื้อฟิลเลอร์จะมี Crosslink (จำนวนการเชื่อมพันธะ) ยิ่งมีเยอะก็จะอยู่ได้นานขึ้น สลายช้าลง อุ้มน้ำน้อยลง ทำให้ฉีดแล้วไม่ฟูมาก
เหมาะกับผิวบริเวณที่ขยับบ่อยๆ ซึ่งฟิลเลอร์ Juvederm มีเทคโนโลยี Vycross และ Hylacross โดย เทคโนโลยี Vycross เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ Allergan มีความพิเศษ คือมีความคงตัว มีโมเลกุลยึดเกาะเหนียวแน่นขึ้น ช่วยยกกระชับได้ดีและมีความเป็นธรรมชาติมาก
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์ Juvederm มีจุดเด่นอะไรบ้าง?
Restylane มีเทคโนโลยี NASHA techology และ OBT technology ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ Restylane โดยจะทำฟิลเลอร์ให้เป็นเม็ดละเอียด (particle) เพื่อให้ได้เนื้อ Filler ที่มีค่า Elasticity สูงที่สุด
ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว เน้นในเรื่องของความยืดหยุ่น และสามารถปรับรูปทรงได้หลากหลาย
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์ Restylane มีจุดเด่นอะไรบ้าง?
สำหรับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา หมอแนะนำยี่ห้อและรุ่น ตามนี้ครับ
Restylane Perlane Lyft มีความคงตัวสูง ไม่ฟู และสามารถคงรูปได้ดีที่สุด
Restylane Defyne เนื้อเจลแข็งปานกลาง มีความยืดหยุ่นและอุ้มน้ำได้ดี
Juvederm Volite เนื้อละเอียด ใช้เติมใต้ตาชั้นตื้น เหมาะกับคนผิวบางแต่ไม่มากเกินไป
Juvederm Voluma เนื้อแข็ง ฟูปานกลาง ยืดหยุ่นสูง อุ้มน้ำและให้ความเป็นธรรมชาติ
ฟิลเลอร์ทั้ง 5 รุ่นนี้ เหมาะกับการ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อแก้ปัญหาใต้ตา ถุงใต้ตา ตาคล้ำ ซึ่งหมอจะเป็นคนแนะนำยี่ห้อและรุ่นฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับปัญหาของแต่ละคนครับ
หากยังไม่รู้ว่าจะเลือก ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี เลือกคลินิกอย่างไรให้ปลอดภัยได้มาตรฐาน ไม่อยากผิดหวังจากการฉีดฟิลเลอร์เนื่องจากผลออกมาไม่ธรรมชาติหรือมีอาการบวมย้อย คนไข้ควรเลือกคลินิกได้มาตรฐาน เชื่อถือได้และพิจารณาจากปัจจัย ดังนี้ครับ
คลินิกได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองและมีความน่าเชื่อถือ
แพทยท์มีประสบการณ์ มีความชำนาญในการใช้ฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า
ใช้ฟิลเลอร์แท้เท่านั้น สามารถศึกษาวิธีดูฟิลเลอร์แท้ได้ในบทความ วิธีดูฟิลเลอร์แท้แต่ละชนิด
มีรีวิวจากแหล่งที่เป็นกลาง เช่น Facebook Fanpage หรือรีวิวในแหล่งที่คลินิกไม่สามารถลบได้
ข้อสงสัยหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา กี่วันเห็นผล บวม เป็นก้อนเกิดจากอะไร?
ฟิลเลอร์ใต้ตา กี่วันเห็นผล?
หลายๆ คนคงอยากทราบว่าฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา กี่วันเข้าที่? จริงๆ แล้วการเติมฟิลเลอร์จะสามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังฉีดครับ
ในส่วนของการ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา หลังฉีดฟิลเลอร์ไปแล้วประมาณ 4-5 วันจะค่อยๆ เข้าที่และเห็นผลลัพธ์ชัดเจนใน 2-3 สัปดาห์ครับ
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา บวมกี่วัน?
อาการบวมหลัง ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถเกิดขึ้นได้เป็นเรื่องปกติครับ สาเหตุจากการที่เข็มเข้าไปในผิว ไม่ใช่อักเสบบวมแดงเพราะตัวยา
ประมาณ 3 วัน จะค่อยๆ ดีขึ้น เข้าที่เต็มที่ใช้เวลาประมาณ 1-2 อาทิตย์ หลังจากนั้นหมอจะนัดมาดูผลอีกครั้งครับ
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ทำให้ตาบอดจริงหรือ?
การ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ทำให้ตาบอดได้จริงครับ แต่เกิดขึ้นได้ยากมาก
ในปัจจุบันที่มีการเข้ามาของเทคโนโลยีต่างๆ คนไข้สามารถหาข้อมูลและเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน แพทย์ที่เก่ง มีประสบการณ์ เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ครับ
สาเหตุที่ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แล้วตาบอด เกิดจากการฉีดฟิลเลอร์ปลอม ฉีดกับหมอเถื่อนที่ไม่มีความรู้ หรือการผิดพลาดจากการที่ฉีดฟิลเลอร์เข้าหลอดเลือด ทำให้เกิดการอุดต้น
แต่หากฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ที่มีประสบการณ์และใช้ฟิลเลอร์แท้ ก็แทบไม่มีโอกาสเกิดขึ้นครับ
ฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นก้อน เกิดจากอะไร? แก้ไขได้ไหม?
ปัญหาการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แล้วเป็นก้อนบวม เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้
เลือกฟิลเลอร์ไม่ถูกรุ่นไม่เหมาะกับบริเวณที่ฉีด
ใช้เทคนิคการฉีดไม่ถูกต้อง
ใช้ฟิลเลอร์ปลอมหรือฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน
หมอที่ฉีดให้ไม่มีความชำนาญทางด้านการฉีดฟิลเลอร์
การแก้ไขต้องดูว่าเกิดจากสาเหตุอะไร ถ้าฉีดด้วยฟิลเลอร์แท้ HA (Hyaluronic Acid) สามารถใช้ตัวยาไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase:HYAL) ฉีดเพื่อสลายฟิลเลอร์ได้ครับ
สำหรับสาเหตุและวิธีแก้ไขอย่างละเอียดสามารถอ่านบทความ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน เกิดมาจากอะไร? อันตรายไหม? มีวิธีแก้ไขอย่างไร? เพื่อศึกษาเพิ่มเติมได้ครับ
การปฏิบัติตัวก่อนและหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา |
---|
1. ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา |
2. เลือกคลินิก ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อย่างละเอียด |
3. ดูรีวิวจากผู้ใช้บริการจริงในคลินิกนั้นๆ |
4. ควรงดยา แอสไพริน, NSAIDs งดวิตามิน และยาทาชนิดผลัดเซลล์ผิว รวมถึง งดการแว็ก |
5. งดแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมง |
6. งดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด |
ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา |
---|
1. ปรึกษาหมอเพื่อประเมินปัญหาและเลือกชนิดฟิลเลอร์ |
2. สามารถแต่งหน้ามาได้ แต่จะมีการทำความสะอาดบริเวณใต้ตาในจุดที่จะฉีด |
3. แปะยาชา |
4. หมอทำการฉีดฟิลเลอร์ |
5. ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ในท่านั่งหรือนอนเอียงที่ระดับหัวอยู่สูงกว่าหัวใจ ไม่ให้เลือดออกมากขึ้น |
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา |
---|
1. มีอาการบวมแดงได้ในจุดที่ฉีด ก่อนจะหายไปเองใน 2-3 วัน |
2. ทางคลินิกจะจ่ายยาแก้ปวด ลดบวม |
3. อยู่แต่ในที่อากาศเย็นและหลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด อย่างน้อย 48 ชั่วโมง |
4. หลัง ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ควรลดเลเซอร์ร้อนลงชั้นผิว 1 เดือน |
5. ดื่มน้ำมากๆ ให้เพียงพอกับร่างกาย จะทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น |
ข้อห้าม หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ฟิลเลอร์เข้าที่เร็วขึ้นและรักษาผลลัพธ์ให้อยู่ได้นานขึ้นครับ
หลัง ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ไม่ควรแตะ แกะ เกา ในบริเวณที่ทำ
อยู่ในที่อากาศเย็นและหลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด การซาวน่า เลเซอร์ร้อน ตากแดด ออกกำลังกายหนักๆ ในช่วง 3 วันแรกหลังทำ
หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาหารที่เผ็ดมากจนหน้าแดง อาหารหมักดอง อาหารดิบจากร้านที่ไม่สะอาด
งดสูบบุหรี่
หลังจาก ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา พยายามอย่าขยับใบหน้าเยอะๆ ในช่วง 3 วันหลังทำ เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ผิดตำแหน่งได้
1 ชม.หลัง ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถแกะพลาสเตอร์ออกได้
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยอะไรบ้าง?
การ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถครอบคลุมการแก้ไขปัญหาใต้ตาได้เกือบทั้งหมด
ทั้งจากอายุที่มากขึ้นและการเสื่อมสภาพของผิว หลักๆ ได้แก่ ลดริ้วรอย ร่องลึกใต้ตา แก้ถุงใต้ตา ผิวหย่อนคล้อย เบ้าตาลึก ตาโหล ขอบตาดำ และฉีดใต้ตาคล้ำ
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ตาบอด จริงไหม?
การ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มีโอกาสทำให้ตาบอดได้จริงครับ แต่เกิดขึ้นน้อยมากๆ แทบไม่มีแล้ว
หากคนไข้เลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ได้มาตรฐาน และใช้ฟิลเลอร์แท้ (หากฉีดผิดพลาดสามารถฉีดสลายได้ทันที) หมอที่มีประสบการณ์จะใช้เทคนิคที่ถูกต้อง ลดความเสี่ยงในการฉีดฟิลเลอร์เข้าหลอดเลือดครับ
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา กี่วันเห็นผล?
หลัง ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เห็นผลการเปลี่ยนแปลงทันทีหลังฉีด ใต้ตาจะเต็มขึ้น ริ้วรอยและถุงใต้ตาลดลง
แต่จะยังมีอาการบวมจากเข็มและเนื้อฟิลเลอร์ยังเข้าที่ไม่เต็ม 100% โดยปกติจะมีการติดตามผลหลังฉีดใต้ตา 2 สัปดาห์ ถึงเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนครับ
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานแค่ไหน?
การ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ทั่วไปจะอยู่ได้ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ที่เลือกใช้
รวมไปถึงการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ หากหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้ฟิลเลอร์สลายได้ ก็จะช่วยรักษาฟิลเลอร์ให้อยู่ได้นานขึ้นครับ
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา นอกจากช่วยแก้ไขปัญหาความหย่อนคล้อย ถุงใต้ตา ลดริ้วรอยใต้ตา ตาคล้ำ ยังเป็นตัวช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคต และเป็นจุดที่เมื่อแก้ไขแล้วจะทำให้ใบหน้าเห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจน หน้าดูเด็กลงอย่างเป็นธรรมชาติ
“การดูแลตัวเองยิ่งเริ่มเร็ว ยิ่งรักษาความอ่อนเยาว์ไว้ได้นานครับ”